พระสามพี่น้องเป็นพระพุทธรูปสำคัญ ที่สร้างปาฏิหาริย์ลอยน้ำมาขึ้นในจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่หลวงพ่อวัดบ้านแหลม (วัดเพชรสมุทรวรวิหาร) จังหวัดสมุทรสงคราม
หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา และ
หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ
ตำนานเล่าว่าพระสามพี่น้องนี้เป็นพระที่สร้างขึ้นโดยพี่น้องสามคนเพื่อเป็นพุทธบูชา โดยพี่ชายคนโตเป็นคนที่เกิดวันพุธ จึงสร้างพระปางอุ้มบาตร คนกลางนั้นเกิดวันพฤหัสบดีจึงสร้างพระปางสมาธิ ส่วนน้องคนสุดท้องสร้างพระปางมารวิชัยแล้วต่อมาก็ว่ากันว่าพระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้ถูกนำมาซ่อนในแม่น้ำเพื่อหลบพม่า หรือบ้างก็ว่าเกิดอุบัติเหตุจากการขนย้ายทางเรือ แต่สุดท้ายแล้วพระพุทธรูปทั้งสามองค์นั้นก็เป็นพระที่อยู่ในแม่น้ำเหมือนกันเมื่อพระพุทธรูปทั้งสามอยู่ในแม่น้ำทางภาคเหนือ ก็แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ล่องลอยมาตามแม่น้ำ แต่ละองค์ได้เลือกสถานที่แห่งใดบ้างซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน
หลวงพ่อวัดบ้านแหลม (วัดเพชรสมุทรวรวิหาร) หรือ วัดศรีจำปาในอดีต โดยตำนานเล่าว่าชาวบ้านแหลม ได้ไปจับปลาในปากอ่าว ในขณะที่ลากอวนจับปลาอยู่นั้นก็ได้ลากติดพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขึ้นมาหนึ่งองค์ ชาวประมงต่างดีใจอาราธนาท่านขึ้นประดิษฐานบนเรือ แล้วรีบตีกลับในทันทีในขณะที่กำลังกลับลำเรือจะมุ่งหน้ากลับตำบลแม่กลอง ผ่านหน้าวัดศรีจำปาก็ได้เกิดเรื่องประหลาดขึ้นคล้ายๆ กับว่าหลวงพ่อท่านประสงค์ที่จะขึ้นประดิษฐานที่วัดนี้ จึงบันดาลให้เกิดพายุฝนกระหน่ำอย่างรุนแรง ทำให้เรือที่บรรทุกหลวงพ่อมานั้นทนคลื่นลมไม่ไหว ก็เอียงโคลงไปโคลงมา จนหลวงพ่อท่านเคลื่อนตกจากเรือจมหายไปอีกครั้งชาวประมงบ้านแหลม ต่างช่วยกันดำน้ำหาอยู่หลายวันก็ไม่พบ ชาวบ้านศรีจำปาทราบข่าวก็ช่วยกันดำน้ำค้นหากันอีกครั้ง ด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อที่ได้เลือกที่ขึ้นประดิษฐานและจะอยู่เป็นมิ่งขวัญของชาวบ้านแถวนี้ ท่านก็ได้ปรากฏองค์ให้เห็นอีกครั้งตรงจุดเดิมที่ท่านจมลงไป ชาวบ้านศรีจำปาจึงช่วยกันอาราธนาท่านขึ้นแล้วนำไปประดิษฐานไว้ที่วัดศรีจำปา แต่ชาวบ้านแหลมมีข้อแม้ว่าจะต้องเปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่เป็นชื่อว่า ?วัดบ้านแหลม? เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้จดจำว่าเป็นกลุ่มแรกที่ได้พบพระพุทธรูปองค์นี้ จากนั้นวัดศรีจำปาจึงเปลี่ยนมาเป็นวัดบ้านแหลมนับแต่นั้นมา
หลวงพ่อโสธร (วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา) หลวงพ่อโสธรนี้ถือว่าเป็นพระสามพี่น้ององค์กลาง ที่ลอยตามกระแสน้ำมาออกที่แม่น้ำบางปะกง แล้วจากนั้นก็ได้ลอยวนไปวนมาผุดขึ้นตรงบริเวณหน้าวัดหงส์ ซึ่งเล่ากันว่าตรงจุดที่หลวงพ่อลอยวนอยู่หน้าวัดหงษ์นั้นเดิมมีเสาใหญ่ยอดหงษ์ วัดนี้จึงถูกเรียกว่าวัดหงส์ ต่อมาหงษ์บนยอดเสาได้ชำรุดหักลงทางวัดจึงได้นำธง 8 ริ้วไปติดไว้บนยอดเสาแทน จนชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า แปดริ้ว พอหลวงพ่อโสธรมาลอยวนหยุดอยู่บริเวณนี้ก็ทำให้ชาวบ้านตื่นตกใจ ช่วยกันฉุดชักขึ้นฝั่งแต่ก็ไม่สำเร็จ จนต้องมีผู้รู้มาแนะนำให้ตั้งศาลเพียงตาบวงสรวงกล่าวคำอัญเชิญชุมนุมเทวดามาอาราธนาท่านขึ้นจากแม่น้ำ โดยใช้เพียงสายสิญจน์คล้องที่พระหัตถ์เท่านั้นก็สามารถอาราธนาท่านขึ้นมาบนฝั่งได้สำเร็จ ชาวบ้านต่างดีใจพร้อมใจกันอัญเชิญหลวงพ่อท่านไปประดิษฐานที่วัดโสธรวรารามวรวิหารนับแต่นั้นมา
พระสามพี่น้ององค์เล็กปางมารวิชัย คือ หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน (วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม) อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยผุดขึ้นที่ปากคลองสำโรง แล้วชาวบ้านแถวนั้นได้อาราธนาขึ้นจากน้ำโดยใช้แพลากจูง อีกทั้งยังอธิษฐานว่าจะขึ้นฝั่งประดิษฐานเป็นมิ่งขวัญที่ใด ก็ขอให้แพหยุดอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหวตรงนั้นแล้วแพก็มาหยุดนิ่งไม่ยอมเคลื่อนไหวหน้าวัดบางพลีใหญ่ใน ชาวบ้านเลยอาราธนาขึ้นประดิษฐานที่วัดนี้ ตำนานอาจจะแตกต่างมีการผิดเพี้ยนไปบ้างกันไปบ้าง ซึ่งเป็นธรรมดาของการบอกเล่าปากต่อปากที่เล่าสืบต่อกันมา