เนื้อความในอหิสูตร หรืออหิราชสูตรกล่าวถึงที่มาของขันธปริตร ไว้ดังนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งในกรุงสาวัตถีถูกงูกัด ทำกาละแล้ว ครั้งนั้นแล ภิกษุเป็นอันมากพากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุรูปหนึ่งในเมืองสาวัตถีนี้ถูกงูกัด ทำกาละแล้ว พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุนั้นชะรอยจะไม่ได้แผ่เมตตาจิตไปยังสกุลพญางูทั้ง 4 เป็นแน่ ก็ถ้าเธอพึงแผ่เมตตาจิตไปยังสกุลพญางูทั้ง 4 ไซร้ เธอก็ไม่พึงถูกงูกัดทำกาละ ตระกูลพญางู 4 เป็นไฉน คือ
ตระกูลพญางูชื่อวิรูปักขะ
ตระกูลพญางูชื่อเอราปถะ
ตระกูลพญางูชื่อฉัพยาปุตตะ
ตระกูลพญางูชื่อกัณหาโคตมกะ
ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุนั้นชะรอยจะไม่ได้แผ่เมตตาจิตไปยังสกุลพญางู 4 จำพวกนี้เป็นแน่ ก็ถ้าเธอพึงแผ่เมตตาไปยังตระกูลพญางูทั้ง 4 นี้ไซร้ เธอก็ไม่พึงถูกงูกัดทำกาละ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุแผ่เมตตาจิตไปยังตระกูลพญางู 4 จำพวกนี้เพื่อคุ้มครองตน เพื่อรักษาตน เพื่อป้องกันตน
ซึ่งบทสวดมนต์ ซึ่งเป็นคาถากันงู มีนามว่า ขันธปริตร เป็นบทสำหรับสาธยายแผ่เมตตาจิต ไปยังตระกูลพญางูทั้ง ๔ มีรายละเอียดดังนี้
ขันธะปะริตตะคาถา (พระคาถากันงูร้าย)
วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม
ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ
อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม
จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม
มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก
มา มัง จะตุปปะโท หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท
สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา
สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา
อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี สะระพู มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง ฯ
คำแปล คาถาขันธปริต
ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพญานาคทั้งหลายตระกูลวิรูปักข์ด้วย
ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพญานาคทั้งหลายตระกูลเอราบถด้วย
ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพญานาคทั้งหลายตระกูลฉัพยาบุตรด้วย
ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพญานาคทั้งหลายตระกูลกัณหาโคตมกะด้วย
ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลายที่ไม่มีเท้าด้วย
ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลายที่มี ๒ เท้าด้วย
ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลายที่มี ๔ เท้าด้วย
ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลายที่มีหลายเท้าด้วย
สัตว์ไม่มีเท้าอย่าเบียดเบียนเรา สัตว์ ๒ เท้าอย่าเบียดเบียนเรา
สัตว์ ๔ เท้า อย่าเบียดเบียนเรา สัตว์หลายเท้าอย่าเบียดเบียนเรา
และขอสรรพสัตว์ที่หลายที่มีชีวิตทั้งปวง ที่เกิดมาทั้งหมดทั้งสิ้นด้วยกัน
จงเห็นซึ่งความเจริญทั้งหลายทั้งปวงเถิด โทษอันลามกใด ๆ อย่าได้มาถึงแล้ว แก่สัตว์เหล่านั้น
พระพุทธเจ้า ทรงพระคุณไม่มีประมาณ พระธรรม ทรงพระคุณไม่มีประมาณ พระสงฆ์ ทรงพระคุณไม่มีประมาณสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลายคืองู แมงป่อง ตะเข็บ ตะขาบ แมงมุม ตุ๊กแก หนู เหล่านี้ล้วนมีประมาณจำกัด ไม่มากเหมือนพระรัตนตรัย เราได้กระทำความรักษาแล้ว เราได้กระทำความป้องกันแล้ว หมู่สัตว์ทั้งหลายจงหลีกไปเสีย เรานั้นได้กระทำความนอบน้อม ต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่ เราได้กระทำความนอบน้อมอยู่ ต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๗ พระองค์อยู่ ฯ
หมายเหตุ ขอบคุณที่มา